สหรัฐอเมริกา ปรับรูปแบบการเล่าเรียนสู่ออนไลน์หนี COVID-19 แต่ว่าติดปัญหานักเรียนมีเน็ตไม่เท่าเทียม

ในขณะที่ COVID-19 กำลังระบาดแพร่ระบาดไปทั้งโลกรวมทั้งในสหรัฐอเมริกา สิ่งที่คุ้มครองปกป้องการแพร่ระบาด คือ งดเว้นไปในที่ชุมชน ตัวอย่างเช่น ชาวคริสต์ในประเทศเกาหลีใต้ถึงกับขนาดหยุดประชุมนมัสการพระเจ้าที่โบสถ์โดยปรับเป็นออนไลน์แทน

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหรัฐอเมริกา ได้เรียกร้องให้มีการประชุมหรือการรวมตัวกันในที่ส่วนรวมลดน้อยลง ซึ่งกำลังสนับสนุนกิจกรรมจำนวนมากไปอยู่บนออนไลน์ ในกรณีที่จำเป็นต้องเข้มงวดเป็นพิเศษนั่นก็คือสถานศึกษา ซึ่งมีการเสี่ยงสำหรับในการแพร่ระบาดโรคได้สูง รวมทั้งสถานศึกษาในสหรัฐอเมริกา หลายแห่งพยายามเปลี่ยนการศึกษาเล่าเรียนการสอนสู่ออนไลน์ แต่ว่าก็เจอเรื่องให้สะดุดเพราะเหตุว่ามีนักเรียนใครอีกหลายๆคนไม่มีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเข้าสู่ห้องเรียนออนไลน์ที่เปิดขึ้นใหม่ได้

COVID-19 แพร่ระบาดอย่างรวดเร็วเจ้าหน้าที่ของสถานที่เรียนทั่วโลกไม่มีเวลาเตรียมความพร้อมจัดการไว้ล่วงหน้า เมื่อต้นสัปดาห์ก่อนหน้าที่ผ่านมาองค์การสหประชาชาติแถลงการณ์ว่า 22 ประเทศได้เริ่มปิดสถานศึกษาเพราะว่า COVID-19 ส่งผลให้เด็กนักเรียนเกือบจะ 300 ล้านคนทั้งโลกจำเป็นต้องหยุดเรียน

รัฐวอชิงตันของสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อโรค COVID-19 ถึง 75 ราย ถือว่าเป็นเมืองที่มีผู้ติดโรคสูงที่สุดในสหรัฐอเมริกา รัฐวอชิงตันก็เลยคุ้มครองผู้ติดเชื้อโรคมากขึ้นโดยได้เริ่มปิดสถานศึกษาตั้งแต่อนุบาล ประถมฯ มัธยมฯ จนถึงมหาวิทยาลัยในช่วงเวลาที่ต่างกันไป แต่ว่าก็มีบางที่ได้ปรับห้องเรียนมาอยู่บนออนไลน์ผ่านแอปหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ตัวอย่างเช่น Zoom และก็ Google Classroom จนกระทั่งโรงเรียนเหล่านี้จะกลับมาเปิดได้ตามเดิมอีกรอบ

Michelle Reid ผู้อำนวยการโรงเรียน Northshore ในรัฐวอชิงตันได้ให้อาจารย์แล้วก็เด็กนักเรียนด้วยกันใช้แพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อเกิดความคุ้นเคยแล้วก็เด็กนักเรียนได้จัดเตรียมอุปกรณ์รวมทั้ง WiFi ให้พร้อมก่อนจะมีการปิดสถานศึกษาในวันที่ 5 เดือนมีนาคมก่อนหน้านี้ที่ผ่านมา แต่ว่าถ้าเกิดเด็กนักเรียนคนไหนไม่มีเน็ตที่บ้าน สถานที่เรียนจะให้บริการฮอตสปอตเพื่อสามารถเชื่อมต่อที่บ้านได้

Denise Juneau ผู้อำนวยการสถานศึกษาของรัฐซีแอตเทิลแจ้งให้อาจารย์จัดเตรียมขั้นตอนการสอนในกรณีที่ไม่อยู่ในห้องเรียน แต่ว่าการศึกษาเล่าเรียนการสอนแบบออนไลน์ก็มีปัญหาที่นักเรียนไม่สามารถที่จะเข้าถึงเทคโนโลยีรวมทั้งอินเทอร์เน็ตที่บ้านได้เท่าเทียมกัน

วันศุกร์ที่ 6 เดือนมีนาคม สถานศึกษาอีกหลายแห่งก็ไม่พร้อมเหมือนกันกับโรงเรียน Northshore อาจารย์บางคนในทั่วทั้งประเทศได้กรอกข้อมูลเคล็ดลับสำหรับเพื่อการทำความเข้าใจออนไลน์ไว้ภายใน Google Docs ที่ได้แชร์ใช้ร่วมกัน

แต่ว่าปัญหาใหญ่สำหรับในการเรียนผ่านออนไลน์ในยามฉุกเฉิน คือ นักเรียนไม่สามารถที่จะเข้าถึงการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่บ้านได้ ซึ่งมีความชัดเจนมากขึ้นเรื่อยๆเนื่องจากว่าสถานศึกษาไม่ได้วางแผนล่วงหน้าไว้ก่อน การจัดการกับปัญหาในอาทิตย์นี้รัฐสภาได้อนุมัติให้ FCC (คณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการติดต่อสื่อสารของสหรัฐอเมริกา ) เรียกดูข้อมูลการให้บริการอินเทอร์เน็ตของผู้ให้บริการต่างๆให้ละเอียดอย่างถูกต้อง (ก่อนหน้านี้ที่ผ่านมารายงานมาเกินจริง) เพื่อให้รู้ว่าบริการอินเทอร์เน็ตได้ครอบคุลมพื้นที่ผู้เรียนในชนบทแค่ไหน

 

สนับสนุนโดย  next88