ผู้ปกครองหลายคนคงอาจจะกำลังสงสัยกันอยู่ว่าสรุปแล้วการเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 เดือนกรกฎาคมนี้นั้นเด็กนักเรียนจะยังคงต้องเรียนผ่านทางระบบออนไลน์หรือไม่หรือที่จริงแล้วเราสามารถที่จะส่งบุตรหลานไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติแล้วเนื่องจากว่าจะการทดสอบผ่านการเรียนในทางระบบออนไลน์ที่ผ่านมานั้นผลปรากฏว่าความสนใจในการเรียนผ่านระบบออนไลน์ของเด็กนั้นมีน้อยมากและบางคนแทบไม่เรียนเลยและมียังมีปัญหาตามมาจากการเรียนผ่านระบบออนไลน์อีกมากมาย

ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องของการเรียนออนไลน์นั้นเด็กหลายบ้านไม่ยังไม่มีความพร้อมมากพอที่จะสามารถเรียนผ่านระบบออนไลน์ได้ ดังนั้น อีกหนึ่งทางเลือกในรูปแบบของการเรียนแบบ  New Normal นั้นก็คือการเรียนเหมือนการเรียนแบบนักเรียนสายอาชีพที่จะมีการเรียนแบบภาคเช้าและภาคค่ำ เป็นการเรียนสลับกันเพื่อที่โรงเรียนจะได้มีนักเรียนไม่หนาแน่นจนเกินไป เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมในเขตพื้นที่โรงเรียน 

ซึ่งแน่นอนว่าถึงแม้ว่าหากในอนาคตนั้น การระบาดของไวรัสโควิด-19 ยังไม่หมดไปและเราเองก็ยังไม่สามารถผลิตวัคซีนป้องกันไวรัสได้ แต่ถึงอย่างไรการศึกษาของเด็กก็สำคัญเช่นเดียวกัน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องหาแนวทางที่เหมาะสมเพื่อให้เด็กได้เรียนหนังสือ สำหรับหลักการ การให้เด็กนักเรียนไปเรียนสลับกันเช้ากับค่ำนั้น เหมาะกับเด็กที่โตขึ้นมาหน่อยอย่างเด็กระดับชั้นมัธยม

แต่คงไม่เหมาะกับเด็กระดับชั้นอนุบาล และเด็กระดับชั้นประถมศึกษาตอนต้นแน่นอน และในขณะเดียวกันหากยังมีการระบาดของไวรัสอยู่การที่ผู้ปกครองจะปล่อยให้บุตรหลานของตัวเองไปเสี่ยงกับการติดเชื้อในโรงเรียนก็นั้นก็คงไม่มีใครยอมเช่นเดียวกันดังนั้นในช่วงเวลาที่ยังไม่มีการเปิดเทอมนี้ทางกระทรวงศึกษาธิการควรจะต้องมีการปรึกษาหาแนวทางร่วมกันกับทางโรงเรียนถึงวิธีการเรียนหนังสือของเด็กที่จะทำให้ได้มีประสิทธิภาพมาก

ยิ่งขึ้นวันอาทิตย์ทางการเรียนแบบ New Normal นั้นจะเป็นในทิศทางแบบไหนกันแน่และควรจะต้องมีการพูดคุยกันเกี่ยวกับเรื่องของค่าใช้จ่ายในการเล่าเรียนแบบNew Normalว่าทางผู้ปกครองเองนั้น  ยังจำเป็นอยู่หรือไม่ที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายเต็มจำนวนเหมือนอย่างที่เคยจ่ายมาถ้าหากบุตรหลานของพวกเขาไม่สามารถ

ได้รับความรู้จากทางโรงเรียนที่เหมาะสมกับค่าเทอมที่ผู้ปกครองต้องเสียเงินจ่ายไปแล้วนั้น อาจจะมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นอีกครั้งเกี่ยวกับการเรียนในรูปแบบใหม่แน่นอน อย่างไรก็ดีในตอนนี้ทางผู้ปกครองเองก็รู้สึกหวั่นใจว่าการเรียนแบบ New Normalนั้นจะออกมาในรูปแบบไหน จะเป็นที่ถูกใจของผู้ปกครองหรือไม่และจะเป็นการเสียงให้บุตรหลานของประชาชนนั้นเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสหรือเปล่าคงต้องรอดูแนวการศึกษาในวันที่ 1 กรกฎาคมกันต่อไป

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8 ฝากเงิน