เทคโนโลยี AI ที่มีการพัฒนาเป็นอย่างมากในปัจจุบันนั้น เริ่มมีการที่จะนำมาปรับใช้กับสิ่งต่าง ๆมากมาย เพราะสามารถที่จะช่วยในการลดต้นทุนในส่วนของค่าจ้างของพนักงานลงได้ ทั้งยังไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการทำงานเพราะเป็นเครื่องจักร และยังสามารถทำงานได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ได้อีกด้วย ในบางธุรกิจปัจจุบันได้มีการนำเทคโนโลยี AI มาใช้ในการทำงานต่าง ๆเพิ่มมากขึ้น

เพราะมีประสิทธิภาพในการทำงานเป็นอย่างมาก และข้อดีของการใช้เทคโนโลยี AI ในการทำงานแทนแรงงานคนนั่นคือ ไม่ต้องมีความกังวลในเรื่องของความซื่อสัตย์ในการทำงาน แต่ก็ยังมีการใช้งานไม่มากสักเท่าไหร่ เพราะยังมีความไม่เสถียรในด้านของการเชื่อมต่อเพื่อป้อนคำสั่งให้เทคโนโลยี AI นั้นทำงาน

แต่ในปัจจุบันที่ได้มีสัญญาณการเชื่อมต่อ 5G เข้ามานั้นทำให้การใช้งานเทคโนโลยี AI มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอย่างเท่าตัว ในอนาคตจึงอาจมีการเลิกจ้างแรงงานคนในการทำงานบางประเภท และนำเทคโนโลยี AI เข้ามาใช้ในการทำงานแทน ดังนั้นจึงอาจที่จะมีหลายอาชีพที่ตกงานจากการเลิกจ้างงานของบริษัทนั้น ๆที่นำเทคโนโลยี AI เข้ามาทำงานแทนมนุษย์

  1. พนักงานโรงงาน นั้นเป็นอาชีพที่มีความเสี่ยงสูงเป็นอย่างมากหากเทคโนโลยี AI มีการก้าวหน้าเพิ่มมากขึ้น เพราะสามารถใช้เทคโนโลยี AI ประยุกต์เข้ากับเครื่องจักรในการทำงานแทนแรงงานคน ซึ่งจะสามารถทำให้ธุรกิจนั้น ๆได้ผลผลิตที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม เพราะไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อยในการทำงานเหมือนกับแรงงานคน และยังช่วยลดต้นทุนในการจ่ายค่าแรงพนักงานอีกด้วย และในขณะนี้ก็เริ่มที่จะเห็นบางโรงงานที่ใช้เทคโนโลยี AI บ้างแล้ว
  2. พนักงานการเงิน ในปัจจุบันนั้นเริ่มที่จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่าการทำธุรกรรมต่าง ๆนั้น ผู้ใช้งานไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเดินทางไปธนาคาร เพราะสามารถที่จะทำธุรกรรมต่าง ๆโดยผ่านทางระบบออนไลน์จาก Application ได้แล้ว แต่ทั้งนี้ก็อาจจะยังมีบางธุรกรรมที่จะต้องมีการทำโดยผ่านพนักงานอยู่บ้าง แต่ในอนาคตนั้นมีโอกาสสูงที่จะถูกเลิกจ้างงาน หากสามารถทำธุรกรรมได้อย่างครอบคลุมทุกด้าน
  3. พนักงานบัญชี ในด้านการทำบัญชีต่าง ๆที่จำเป็นที่จะต้องมีพนักงานบัญชีที่มีความเชี่ยวชาญในการทำงานนั้น ๆ ในปัจจุบันอาจไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป เพราะมีโปรแกรมต่าง ๆมากมายที่ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อให้การทำบัญชีนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่มีการป้อนข้อมูลเท่านั้น ทั้งยังมีความแม่นยำ และปลอดภัยจากการถูกโกงอีกด้วย
  4. พิสูจน์อักษร อาชีพนี้อาจไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปในอนาคต เมื่อมีระบบการตรวจสอบตัวอักษรที่มีความแม่นยำจากความฉลาดของเทคโนโลยี AI ในปัจจุบันเข้ามาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
  5. คนขับ Taxi อีกหนึ่งอาชีพที่มีความน่าเป็นห่วงในเรื่องของการถูกแย่งงานจากเทคโนโลยี AI เพราะในอนาคตนั้นเทคโนโลยียานยนต์ไร้คนขับนั้นมีจะมีการนำมาใช้อย่างแน่นอน เพราะมีความปลอดภัยที่สูงกว่า ทั้งนี้ในปัจจุบันก็มีการทดลองนำมาใช้งานแล้วภายในประเทศไทยโดยผ่านทางเครือข่าย AIS แต่ยังไม่มีการนำมาใช้จริงบนท้องถนน แต่เชื่อว่าในอนาคตจะได้เห็นยานยนต์ไร้คนขับมากมายเต็มท้องถนนอย่างแน่นอน

 

 

สนับสนุนโดย  ole777