โรคที่ทำให้คุณขาบวมได้

โรคที่ทำให้คุณขาบวมได้ อาการขาบวมเป็นอาการที่พบได้บ่อยมากๆเลยทีเดียวหลายคนก็มาบอกเราว่ามีอาการขาบวมจะเป็นโรคอะไรได้บ้างต้อบอกเลยว่าขาบวมก็เป็นสัญญาณหนึ่งเป็นอาการหนึ่งที่จะเป็นตัวบ่งบอกว่าเป็นโรคต่างๆเดี๋ยวเรามาดูกันว่าอาการขาบวมเป็นโรคอคะไรได้บ้าง

โรคที่หนึ่ง เส้นเลือดดำที่ขาอุดตัน โดยปกติหัวใจของเราก็จะบีบเลือดผ่านไปทางเส้นเลือดแดงแล้วก็ไปเลี้ยงขาพอไปเลี้ยงขาเสร็จแล้วก็จะไปเลี้ยงเส้นเลือดดำกลับเข้ามาสู่หัวใจอีกรอบหนึ่งแต่ถ้าเส้นเลือดดำของเราที่ขามีการอุดตันก็จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงขาเสร็จแล้วมัมนกลับเข้าสู่หัวใจไม่ได้มันก็จะคั่งอยู่บริเวณขาทำให้ขาของเราบวมขึ้นๆ

โดยโรคนี้ส่วนมากจะบวมเพียงแค่ขาเดียวแล้วให้ลองสังเกตุดูว่าขาองเราบวมมากขึ้นอาจจะเป็นโรคเส้นเลือดดำที่ขาอุดตันก็ได้และสาเหตุเกิดจากหลายสาเหตุเลยอาจจะเกิดจากที่ลิ่มเลือดมันอุดตันก็ได้หรือว่าเกิดจากการที่มีก้อนอะไรไปกดเส้นเลือดดำทำให้มีการตีบมีการตันให้เลือดดำมันกลับเข้าสู่หัวใจไม่ได้ทำให้ขาบวมขึ้นมานั่นเอง

ซึ่งต้องบอกเลยว่าโรคนี้จำเป็นที่จะต้องรีบไปพบแพทย์เพราะว่าถ้าบริเวณเส้นเลือดดำที่มันเป็นลิ่มเลือดที่มันอุดตันอยู่ๆมันหลุดเข้ามาและผ่านมาทางหัวใจมันก็จะทำให้หัวใจของเราอุดตันก็จะส่งผลทำให้เกิดอาการช็อกหัวใจวายได้เลยทีเดียวแนะนำเลยว่าหากมีอาการบวมขึ้นมารีบไปพบแพทย์เลยคุณอาจจะเป้นเส้นเลือดดำอุดตันแล้วก็ได้

โรคที่สองก็๕อ ต่อมน้ำเหลืองอุดตัน โดยปกติที่ขาเรานอกจากจะมีเส้นเลือดแดงเส้นดำแล้วก็จะมีต่อมน้ำเหลืองนั่นเองถ้าวันดีคืนดีต่อนน้ำเหลืองของเรามันอุดตันที่จะเกิดได้หลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นการาติดเชื้อจากมะเร็งก็ได้หรือว่าจากการฉายแสงก็ได้ก็จะส่งผลทำให้ขาของเราบวม

ซึ่งต้องบอกเลยว่าโรคนี้ก็บวมขาเดียวเหมือนกันถ้ามีอาการบวมขาเดียวก็ให้รีบไปพบแพทย์เพราะว่าคุณอาจจะเป็นต่อมน้ำเหลืองดันแล้วก็ได้

โรคที่สามก็คือ ขาอักเสบติดเชื้อ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Ccellulitis โรคนี้เกิดจากการที่ขาของเราหรือว่าเท้าของเรามีการติดเชื้อส่วนมากก็จะเป็นพวกเชื้อแบคทีเรียอาจจะเกิดจากแผลก็ได้หรือว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไรต่างๆทำให้ขาของเราอักเสบมากขึ้นสังเกตได้ว่าขาของเรามีอาการบวมและมีอาการปวดบวมแดงร้อนขึ้นมาให้รีบไปพบแพทย์ด่วน

 

สนับสนุนโดย.  agplus

Social เดือดแนะนำให้แจ้งความจับ2วัยรุ่น

Social เดือดแนะนำให้แจ้งความจับ2วัยรุ่น หลังแอบถ่าย คลิปคนชุดเปื้อนเมนส์แล้วนำไปโพสต์ในแอปดัง 

          กำลังเป็นกระแสร้อนแรงในโลกออนไลน์เมื่อมีหญิงสาวคนนึงได้ออกมาโพสต์เรื่องราวของเธอลง Facebook และได้มีการตำหนิถึงพฤติกรรมของวัยรุ่น 2 คนที่เป็นผู้หญิงโดยเจ้าของ Facebook ระบุว่าเธอได้ไปงานเลี้ยงแต่งงานงานหนึ่งในหมู่บ้านซึ่งในวันนั้นบังเอิญว่าเธอนั้นได้มีประจำเดือนมาวันแรกซึ่งระหว่างที่เธอเดินเข้าไปในงานนั้นเองเธอ

ไม่รู้ตัวว่ากระโปรงของเธอนั้นได้เปื้อนเลือดประจำเดือนเป็นวงกว้างและคนในงานก็ไม่มีใครสะกิดบอกเธอแม้แต่คนเดียวในระหว่างที่เธอกำลังเดินเข้าไปคุยกับเจ้าของงานนั้นปรากฏว่ามีเด็กวัยรุ่น 2 คนที่เป็นผู้หญิงได้มีการถ่ายคลิปกระโปรงของเธอที่เปลี่ยนเลือดแล้วนำไปลงในแอพพลิเคชั่นชื่อดังโดยในคลิปนั้นเด็กสาวทั้งสอง

คนต่างก็พากันหัวเราะขำเธออย่างไรก็ตามเมื่อเธอได้เห็นคลิปดังกล่าวนั้นใน Application จึงได้มีการติดต่อไปหาเด็กวัยรุ่นทั้งสองคนเลยบอกให้เด็กวัยรุ่นทั้งสองคนนั้นทำการลบคลิปของเธอออกจาก Application ดังกล่าวซึ่งทั้งสองคนนั้นก็ลบให้แก่เด็กทั้งสองคนนั้นไม่ได้มีการขอโทษกับสิ่งที่พวกเขาได้กระทำกับเธอด้วยการสร้างความอับอายให้กับเธอเลยทั้งๆที่ตัวเองนั้น

ได้มีการกล่าวขอบคุณเด็กวัยรุ่นทั้งสองคนที่ช่วยลบคลิปออกให้เธอจึงได้มีการโพสต์ลงใน Facebook ส่วนตัวโดยหวังระบายสิ่งที่เธอรู้สึกโดยเธอมองว่าผู้หญิงทุกคนนั้นต่างก็ต้องมีประจำเดือนด้วยกันทั้งนั้น

ซึ่งตัวเด็กหญิงสาวทั้งสองคนเองก็มีที่จริงแล้วเรื่องของการประจําเดือนเปื้อนกระโปรงนั้นเป็นสิ่งที่น่าอายหญิงสาวทั้งสองคนนั้นก็เป็นผู้หญิงด้วยกันแทนที่จะมาเตือนเธอดีๆหรือมาสะกิดบอกเธอสักนิดกับไม่ทำแต่กลับสร้างความอับอายให้กับเธอด้วยการถ่ายคลิปกระโปรงที่เปื้อนเลือดของเธอแล้วนำไปโพสใน Application ซึ่งมีคนเข้าไปดูกันหลายพันคนเป็นการสร้างความอับอาย

ให้กับเธอเป็นอย่างมากและที่สำคัญไม่มีมารยาทมากพอที่จะขอโทษเธออีกด้วยจากข้อมูลที่เธอมีการแชร์ลงใน Facebook นี้ทำให้หลายๆคนที่ได้เข้ามาเห็นข้อความของเธอนั้นต่างพากันไม่พอใจกับพฤติกรรมของเด็กผู้หญิงทั้งสองคนนั้นโดยมีการบอกแนะนำให้เจ้าของ Facebook ไปทำการแจ้งความที่สถานีตำรวจเพื่อเอาผิดเด็กทั้งสองคนในข้อหาความผิดพรบ.คอมพิวเตอร์ได้เลยเพื่อที่จะได้เป็นบทเรียนให้กับเด็กทั้ง 2 คนและคนอื่นๆจะได้ไม่กล้าทำพฤติกรรมแบบนี้เพราะที่พฤติกรรม เป็นพฤติกรรมที่ไม่สมควรกระทำอย่างยิ่ง 

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sagame

รัฐบาลจะคืนเงินประกันค่ามิเตอร์ไฟให้กับประชาชน

รัฐบาลจะคืนเงินประกันค่ามิเตอร์ไฟให้กับประชาชน เพื่อนำเงินมาช่วยเรื่องเศรษฐกิจไทยที่กำลังแย่

              ก่อนหน้านี้เราเคยได้ทราบข่าวเกี่ยวกับเรื่องการแจกเงินให้กับประชาชนจำนวนสองพันบาท ซึ่งมีกำหนดการจะแจ้งให้กับประชาชนในเดือนเมษายนกับพฤษภาคม เพราะต้องการจะให้เงินมาช่วยเหลือประชาชนเพราะตอนนี้หลายคนไม่มีเงินจะใช้จ่ายแล้ว แต่เมื่อประกาศออกไปกลับถูกกระแสสังคมต่อต้านถึงการแก้ไขปัญหาด้วยการแจกเงินเพราะเงินเพียงสองพันบาทคนเราจะใช้แค่เพียงวันหรือสองวันเท่านั้นเงินสองพันบาทนั้นก็หมดไปแล้ว สู้เอางบประมาณที่จะมาแจกคนไปปรับปรุงบริหารประเทศให้เศรษฐกิจกลับมาดีอย่างเดิมดีกว่า ซึ่งกระแสวิพากษ์วิจารณ์มีความรุนแรงขึ้นทำให้ในที่สุดโครงการแจกเงินก็ยุบไป ซึ่งตอนนี้ทางรัฐบาลจึงได้หันมามีโครงการใหม่เป็นโครงการคืนค่ามัดจำมิเตอร์ไฟฟ้าแทน เพราะเงินมัดจำนี้เป็นเงินของประชาชนจึงเปรียบเสมือนเป็นการคืนเงินกลับมาให้กับประชาชนได้ใช้งาน

      สำหรับการคืนเงินประกันนั้นโดยปกติแล้วเราจะได้รับเงินคืนเมื่อมีการยกเลิกการใช้ไฟฟ้า ซึ้งเงินประกันที่เราเสียตอนที่ให้เจ้าหน้าที่การไฟฟ้ามาติดตั้งไฟฟ้าที่บ้านให้ในครั้งแรกนั้นเปรียบเสมือนการจ่ายเงินการใช้ค่าไฟฟ้าล่วงหน้าเอาไว้ เผื่อบ้านไหนที่จะเลิกใช้ไฟฟ้าแล้วไม่ยอมจ่ายเงินการใช้งานครั้งสุดท้ายทางการไฟฟ้าก็จะหักเงินในส่วนนี้คืนกลับเข้าไปที่การไฟฟ้า ทั้งนี้การนำเงินประกันไฟฟ้ามาจ่ายคืนให้กับประชาชนในครั้งนี้จะเริ่มมีการคืนให้กับประชาชนประมาณปลายเดือนมีนาคม

        เพราะเศรษฐกิจช่วงนี้ของประเทศไทย กำลังดิ่งลงเหวไปมาก อาจจะด้วยสาเหตุมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสด้วยส่วนหนึ่งเพราะตั้งแต่มีการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด -19  ร้านค้า ร้านอาหาร สถานทีท่องเที่ยว โรงแรม และสายการบินก็แทบจะล้มละลายกันไปหมด โดยเฉพาะตอนนี้ที่ทุกประเทศมีการติดเชื้อไวรัสกันอย่างแพร่หลายดังนั้น คนต่างประเทศจึงไม่อยากเดินทางออกไปที่ไหนเพราะกลัวว่าจะติดเชื้อกับประเทศที่ตนเองไปเที่ยว

ซึ่งประเทศไทยคือหนึ่งในประเทศที่นักท่องเที่ยวแทบไม่มีเข้ามาเที่ยวเลย ทำให้มองไปทางไหนเมืองแห่งท่องเที่ยวของไทยเราก็ดูเหมือนว่าเป็นเมืองร้างไปหมดซึ่งเมื่อไม่มีนักท่องเที่ยวกิจการต่างต่างก็ต้องปิดตัวลง ทำให้คนตกงานและไม่สามารถหางานทำใหม่ได้ เมื่อเศรษฐกิจไม่ดีแบบนี้ ทางรัฐบาลจึงหามาตรการออกมาเพื่อช่วยเหลือประชาชนและหนึ่งในมาตรการที่กำลังทำอย่างเร่งด่วนก็คือการคืนเงินประกันค่าไฟ ซึ่งพวกเราคงได้แต่หวังว่าเศรษฐกิจน่าจะดีขึ้นในเร็ววันนี้ ไม่เช่นนั้นประเทศไทยคงต้องกลับไปใช้วิถีชีวิตแบบดั้งเดิม คือทำไร่ ทำนา กินกันแน่นอน

 

สนับสนุนโดย  เว็บพนันออนไลน์2020

กูรูวิจารณ์ยับประสบการณ์เที่ยว Safari World

วันหยุดไม่รู้จะไปไหน เบื่อแล้วกับการ shopping

เลยพาครอบครัวสุขสันต์ของเราไปเที่ยวที่ Safari World  อยู่ในกรุงเทพมหานคร เพื่อไปชมสัตว์ป่า น่ารักๆ  การเดินทางเราขับรถไปเอง ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย ข้อเสียคือ หาที่จอดรถยากมาก ถ้าจอดรถไกล กว่าจะเดินมาถึงทางเข้าก็แดดร้อนเหลือเกิน แต่ข้อดีคือ  ที่ safari world จะมีจุดชมสัตว์แบบใกล้ชิดโดย เราสามารถขับรถเข้าไปจอดดูสัตว์ได้ โดยไม่กำหนดเวลา  แต่จริงๆแล้วก็มีสัตว์ไม่กี่ชนิดแล้วตอนนี้ ที่เยอะสุดคงจะเป็นนก  มีนกมากมายหลายชนิด หลายสายพันธ์ ต่อมาก็เป็นกวาง มีเยอะมาก  และมีสัตว์แปลกๆอีกหลายสายพันธ์

แต่ที่เข้าไปดูแล้วเสียความรู้สึกมากที่สุดคือ โซนนกยูง แต่ไม่มีนกยูงสักกะตัว และอีกโซนคือ โซนของเสือและสิงโต  อยากบอกว่า มีเสือและสิงโตเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น และพวกมันก็น่าสงสารมาก เพราะตัวผอมมาก เหมือนขาดสารอาหาร หมดสภาพความเป็นเจ้าป่า หลังจากที่เราขับรถวนดูสัตว์แบบใกล้ชิดแล้ว จึงพากันไปให้อาหารยีราฟ และเดินชมการแสดงที่ทางสวนสัตว์เตรียมไว้ให้ มีทั้งการแสดงของปลาโลมา  การแสดงของสิงโตทะเล  การแสดงคาวบอย  ซึ่งจะมีการแสดงเป็นรอบๆ ถ้าต้องการชมการแสดงทั้งหมด

ต้องไปเช้าๆหน่อย นอกจากจะมีการแสดงให้ชมแล้ว ยังมีจุดที่เราสามารถเดินชมสัตว์เองได้อย่างใกล้ชิด  เริ่มด้วยการให้อาหารนก  มีนกสีสันสวยงามมากมายอยู่ในกรงนกขนาดใหญ่ สามารถซื้ออาหารนำไปป้อนมันถึงปากได้เลย  เดินต่อไปเรื่อยๆจะเจอนกแก้ว เกาะตามกิ่งไม้ ส่งเสียงเจื้อยแจ้ว  และตลอดสองข้างทางจะมีจุดซื้ออาหาร และของฝากเป็นช่วงๆ แต่สินค้าใน safari ราคาค่อนข้างสูงมาก  ที่นั่นยังมีโรงอาหารสำหรับให้นั่งทาน มีอาหารหลายรายการ ทั้งก๋วยเตี๋ยวและส้มตำ  อาหารตามสั่งก็มี  แต่ราคาก็จะสูงกว่าร้านข้างนอกเป็น 2 เท่า  กินอิ่มแล้วตั้งใจจะนั่งเรือถีบเล่นคลายร้อน

แต่ไม่มีคนเล่นเลย และน้ำในคลองก็มีสีคล้ำ ส่งกลิ่นเหม็น  จึงพากันเดินไปเล่นโซน  Game เล่นหมดไปหลายร้อยแต่ไม่ได้อะไรเลย  หลังจากกระเป๋าเงินเริ่มแห้งแล้ว พวกเราจึงพากันไปล่องแก่งดูสัตว์น่ารักๆ สองข้างทาง แต่เนื่องจาก เวลานี้เย็นมากแล้ว จึงไม่มีเพื่อนร่วมทางในการล่องแก่งเลย มีเพียงครอบครัวเราเท่านั้นที่เหมาการล่องแก่งในครั้งนี้

สายน้ำค่อยๆพาเรือเราล่องไป จินตนาการเลิศล้ำว่าต้องมีอะไรให้เราตื่นเต้นแน่นอน  และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ  สัตว์ป่าน้อยใหญ่ มารอต้อนรับคณะทัวร์ของครอบครัวเราเต็มสองข้างทาง ไม่เดินหนีไปไหน ยืนนิ่งเป็นหินอยู่อย่างนั้น พอเราเข้าไปใกล้จึงเข้าใจ อ้อ มันคือหินจริงๆ อยากจะกรี๊ด!!!!  อุตส่าห์ตั้งใจมากลัว หมดกันจินตนาการอันสุดเลิศล้ำของเรา  หลังจากล่องแก่งเสร็จเราก็พากันกลับบ้าน หมดช่วงเวลาสนุกสำหรับวันนี้เพียงเท่านี้

ที่วิจารณ์มาทั้งหมดไม่ได้ต้องการให้เห็นแต่ด้านไม่ดี เพียงแต่อยากบอกให้รู้ว่า ณ ขณะนี้ สถานที่พักผ่อนและที่อยู่ของสัตว์ที่เมื่อก่อนมีคนมากมายพากันไปเยี่ยมชม กำลังเปลี่ยนไป เมื่อไม่ค่อยมีคนเข้าไปชม รายได้ของทางสวนสัตว์ก็น้อยลง เงินที่จะนำมาซื้ออาหารเลี้ยงสัตว์ก็น้อยไปด้วย สุดท้ายแล้วก็ได้แต่สงสารสัตว์เหล่านั้น แต่สุดท้าย ทริปนี้ก็เป็นทริปที่สนุกเหมือนกันอย่างน้อยเด็กๆ ก็ได้รู้จักสัตว์หลายสายพันธ์และได้ใกล้ชิดกับสัตว์มากขึ้น