วิธีการสมัครสินเชื่อผ่านแอปของธนาคาร 

        สำหรับใครที่อยากจะกู้ยืมเงินหรือทำสินเชื่อเนื่องจากว่ามีปัญหาด้านการเงินและอยากจะหาเงินมาใช้จ่ายซึ่งต้องการเป็นเงินก้อนและไม่ต้องการไปกู้เงินยืมเงินนอกระบบนั้นโดยปกติแล้วก็จะต้องนำเอกสารไปติดต่อที่ธนาคารที่เราจะอยากยื่นซึ่งแต่ละธนาคารในประเทศไทยก็มีการเปิดสินเชื่อต่างๆให้มีการกู้ยืมได้นั้นเวลาจะเป็นสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือสินเชื่อเพื่อใช้จ่ายทั่วไปเป็นต้น

 

         อย่างไรก็ตามการยื่นกู้เงินกับทางธนาคารนั้นต้องเตรียมเอกสารให้ครบและจะต้องมีการหาเวลาว่างเดินทางไปที่ธนาคารพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่หลังจากกรอกแบบฟอร์มกับทางเจ้าหน้าที่แล้วก็ต้องรออนุมัติสินเชื่อประมาณ 15-20 วัน

ซึ่งถ้าหากว่าได้รับการอนุมัติทางธนาคารก็จะมีการติดต่อแจ้งให้รับเงินได้โดยธนาคารจะมีการโอนเงินเข้าบัญชีให้

       สำหรับในปัจจุบันนี้ธนาคารต่างๆได้มีการอำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่อยากจะกู้ยืมเงินกับทางธนาคารโดยได้มีการสร้าง Application ขึ้นมาซึ่งในตอนนั้นก็เอาไว้ใช้สำหรับการใช้ข้อมูลธนาคารเช็คบัญชีทางการเงินของตนเอง

การโอนเงินหรือถอนเงินต่างๆหลังจากนั้นก็มีการพัฒนาแอพพลิเคชั่นเลยมาจนล่าสุดก็สามารถที่จะทำการสมัครยื่นสินเชื่อขออนุมัติเงินกู้ต่างๆผ่านทางของแอปธนาคารได้แล้ว

       ปัจจุบันถึงแม้ว่าจะไม่ได้มีทุกธนาคารที่มีการขอสินเชื่อผ่านทางแอพธนาคารได้แต่ก็มีมาก 5-6 ธนาคารเลยทีเดียวชื่อคุณที่จะสามารถยื่นเอกสารต่างๆผ่านทาง app ธนาคาร

 

โดยที่เราไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางไปที่ธนาคารเพื่อลดความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไวรัส covid ได้ด้วยซึ่ง  huaydee    ธนาคารที่มีการเปิดให้มีการยื่นสมัครสินเชื่อผ่านทาง App ของธนาคารนั้นก็มีตั้งแต่ธนาคารกสิกรไทยรวมถึงธนาคารกรุงศรีนอกจากนี้ยังมีธนาคารไทยพาณิชย์และธนาคารกรุงไทยเป็นต้น 

         สำหรับวิธีการสมัครสินเชื่อผ่านทาง app ธนาคารนั้นทำได้ง่ายมากโดยแต่ละธนาคารมีวิธีการที่มีความคล้ายคลึงกันนั่นก็คือหากคุณต้องการสมัครสินเชื่อของธนาคารไหนก็ต้องทำการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของธนาคารนั้นมาไว้ที่โทรศัพท์มือถือของคุณนอกจากนี้คุณยังต้องมีบัญชีกับทางธนาคารที่คุณจะทำการกู้สินเชื่อด้วยโดยต้องมีการเปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารนั้นซึ่งปัจจุบันนี้ก็สามารถเปิดเป็นแบบบัญชีเงินฝากออนไลน์ผ่าน App ได้แล้วเช่นเดียวกัน

         หลังจากที่มีแอพพลิเคชั่นของธนาคารที่เราจะกู้เงินแล้วเราก็เข้าไปที่เมนูที่ระบุว่าเป็นการยื่นขอสมัครสินเชื่อหลังจากนั้นก็ดูรายละเอียดสินเชื่อที่เราต้องการที่จะสมัครก็ข้อมูลต่างๆให้ครบถ้วนตามที่มีการระบุที่หน้าจอจากนี้ก็ให้ดาวน์โหลดเอกสารแนบเข้าไปซึ่งจะเป็นการอัพโหลดสลิปเงินเดือนสำเนาบัตรประชาชนสำเนาทะเบียนบ้านหนังสือรับรองเงินเดือนรวมถึงใน Application

จะมีการให้เราถ่ายภาพยืนยันตัวตนด้วยหลังจากที่ทำรายการเสร็จเรียบร้อยตามหน้าจอของแอพพลิเคชั่นก็เหลือเพียงแค่รอการติดต่อจากธนาคารว่าจะมีการอนุมัติหรือไม่อนุมัติให้เท่านั้นเอง 

แนะนำวิธีการใช้งาน App PEA SmartPlus 

        ปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่ส่วนใหญ่แล้วจะมีโทรศัพท์มือถือเป็นของตนเองและส่วนใหญ่โทรศัพท์มือถือที่ใช้นานก็จะเป็นพวกสมาร์ทโฟนซึ่งสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาใช้งานได้และแอพพลิเคชั่นที่มีการดาวน์โหลดมาไว้ที่เครื่องนั้นนอกจากจะเป็น Application สำหรับสร้างความบันเทิงแล้วก็ยังมีบาง Application ที่เอาไว้สำหรับทำงานโดยตรงหรือเอาไว้สำหรับชำระสินค้าและบริการโดยตรง

       ดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับแอพพลิเคชั่นหนึ่งที่เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคนที่ไม่สะดวกไปชำระค่าไฟสามารถที่จะชำระค่าไฟผ่านทางแอพพลิเคชั่นนี้ได้และสามารถชำระได้แบบเรียลไทม์ซึ่งคุณจ่ายเงินได้รับการยืนยันว่าเงินเข้าเรียบร้อยแล้วค่าไฟก็จะมีการไปแสดงที่การไฟฟ้าทันที 

        อย่างไรก็ตามปัจจุบันประเทศไทยมีการไฟฟ้าอยู่ 2 แบบด้วยกันคือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้านครหลวงซึ่งโดยปกติแล้วการไฟฟ้านครหลวงนั้นจะเป็นการใช้งานในเขตกรุงเทพฯศูนย์การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนั้นจะเป็นการใช้งานไฟฟ้าของประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดดังนั้นในบทความนี้เราจะมาแนะนำเกี่ยวกับเรื่องของการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมาใช้งานกันว่ามีวิธีการใช้งานอย่างไรบ้าง

       สำหรับขั้นตอนของการดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นนั้นมีวิธีการดาวน์โหลดเหมือนกันทุก Application นั่นก็คือถ้าคุณใช้โทรศัพท์มือถือของ Apple คุณก็ต้องไปดาวน์โหลดแอปพลิเคชันมาจาก App Store แต่ถ้าเกิดว่าคุณใช้เป็นสมาร์ทโฟนรุ่นอื่นๆก็จะต้องมีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นมาจาก Play Store   ซึ่งคุณจะต้องกดค้นหา Application การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคโดยใช้ชื่อ  PEA SmartPlus 

      ภายหลังจากที่มีการดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นPEA SmartPlus  มาไว้ที่ตัวเครื่องเรียบร้อยแล้วก็ทำการลงทะเบียนซึ่งเมื่อกดเข้าไปที่แอปพลิเคชันดังกล่าวจะมีข้อมูลให้ทำการกรอกโดยจะเป็นการกรอกข้อมูลของผู้ที่ลงทะเบียนไว้กับทางการไฟฟ้าซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นการระบุให้ใส่เป็นชื่อนามสกุลรวมถึงเลขที่บัตรประจำตัวประชาชนและที่สำคัญก็คือเลขที่การลงทะเบียนกับทางการไฟฟ้าเอาไว้นั่นเอง

        เมื่อกรอกข้อมูลเสร็จเรียบร้อยแล้วคุณก็จะสามารถใช้งาน Application ได้ทันทีและคุณจะสามารถเข้าไปดูได้ว่าคุณมีค้างค่าไฟไว้กี่เดือนและมีเมนูสำหรับให้จ่ายค่าไฟซึ่งสามารถเลือกที่จะจ่ายผ่านบัตรเครดิตก็ได้หรือจะให้มีการหักจากบัญชีธนาคารก็ได้เช่นเดียวกันเพียงแต่ว่าในขณะนี้ยังไม่ครอบคลุมทุกธนาคารโดยจะมีค่าธรรมเนียมในการชำระเงินนั้นขึ้นอยู่กับว่าเลือกชำระผ่านช่องทางไหนนั่นเอง 

         นอกจากนี้แอพพลิเคชั่นPEA SmartPlus ยังสามารถดูประวัติการใช้ไฟย้อนหลังได้ 6 เดือนว่าในแต่ละเดือนนั้นควรใช้ไฟในปริมาณมากน้อยมากแค่ไหนและยังดูประวัติการชำระเงินได้อีกด้วยว่าในแต่ละเดือนนั้นมีการชำระเงินในวันที่เท่าไหร่ซึ่งถือว่าเป็นการสร้าง Application ขึ้นมาเพื่อความสะดวกของผู้ใช้งานอย่างแท้จริงเลยทีเดียว 

 

สนับสนุนโดย  huaydee

การยกระดับมาตรการคุมเข้มโควิด-19 จะส่งผลทำให้ร้านค้าแย่ลง

        การยกระดับมาตรการคุมเข้ม รัฐบาลภายใต้การดูแลของพลเอกประยุทธ์   จันทร์โอชา   ได้ออกมาพูดถึงมาตรการควบคุมการระบาดของไวรัสโควิค-19 ที่กำลังมีการระบาดอย่างหนักและรอบที่ 3 ในครั้งนี้ว่าในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลรวมถึงจังหวัดที่เป็นโซนสีแดงจะต้องมีการยกระดับมาตรฐานความปลอดภัยดังนั้นจึงมีการออกมาตรการล็อคดาวน์ออกมาให้ประชาชนนั้นห้ามออกจากบ้านหลังจาก 21:00 น ไปแล้วจนถึงเวลา 04:00 น. 

         และมาตรการอื่นๆที่ชางพลเอกประยุทธ์จันทร์โอชาได้มีการออกมาตรการออกมานั้นก็คือการขอความร่วมมือให้ร้านค้าปิดเร็วขึ้นไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือร้านขายสินค้าต่างๆจะให้บริการถึงแค่ 20:00 น ถึง 21:00 น เท่านั้นนอกจากนี้ห้างสรรพสินค้ายังต้องเปิดให้บริการช้าลงจากเดิมที่เคยเปิด 10:00 น ก็เปลี่ยนมาเป็นเปิด 11:00 น และยังต้องปิดบริการเร็วขึ้นเพราะจากเดิมปิด 22:00 น ก็เหลือติดมาแค่ 20:00 น หรือบางพื้นที่อาจจะเปิดให้ปิดถึง 21:00 น 

           ซึ่งมาตรการนี้ส่งผลทำให้เจ้าของธุรกิจไม่ว่าจะเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้าหรือเจ้าของร้านค้าที่ขายในห้างสรรพสินค้ารวมถึงร้านอาหารข้างนอกต่างๆที่มีการขอความร่วมมือให้ปิดร้านเร็วขึ้นนั้นได้รับผลกระทบอย่างหนักเพราะการขายสินค้าหรือขายอาหารนั้นเรียกได้ว่ามีเวลาขายได้น้อยมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งในห้างสรรพสินค้านั้นปัจจุบันนี้มีคนไปเดินห้างลดลงกว่าเดิมเยอะมากเกินกว่า 50% เลยทีเดียวและยิ่งมีมาตรการคุมเข้มออกมาแบบนี้ทำให้คนนั้นจะยิ่งเดินซื้อของภายในห้างลดน้อยลงและเจ้าของร้านค้าหรือเจ้าของธุรกิจนั้นก็จะยิ่งแย่ลงมากกว่าเดิม 

           การที่นายกรัฐมนตรีออกมาคุมเข้มเรื่องของมาตรการการดูแลการระบาดของไวรัสโควิช- เพราะต้องการควบคุมการระบาดของไวรัสนั้นเป็นสิ่งที่ประชาชนควรต้องให้การร่วมมือแต่ในขณะเดียวกันนั้นก็ส่งผลเสียต่อประชาชนมากมายเช่นเดียวกันโดยเฉพาะเจ้าของธุรกิจที่พวกเขานั้นไม่สามารถที่จะขายสินค้าได้ดังนั้นอาจกล่าวได้ว่าเมื่อเราสามารถคุมการระบาดของไวรัสได้ปัญหาเศรษฐกิจของเจ้าของธุรกิจก็จะตามมา 

        ตัวอย่างของร้านค้าที่ได้รับผลกระทบเช่น  ร้านตัดผมเนื่องจากตอนนี้มาตรการคุมเข้มเรื่องของการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิคประกาศออกมาดังนั้นรัฐบาลจึงขอความร่วมมือร้านตัดผมทุกร้านให้รับลูกค้าเข้าไปตัดผมมาในร้านได้เพียงแค่คนเดียวเท่านั้นห้ามมีลูกค้าไปนั่งรอภายในร้านซึ่งวิธีการนี้จะส่งผลเสียต่อร้านตัดผมเป็นอย่างมากเลยทีเดียวเพราะการตัดผมในแต่ละครั้งนั้นจะต้องใช้ระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 30 นาทีและถ้าหากไม่สามารถตัดผมให้ลูกค้าพร้อมกันทีเดียวได้หลายคนก็จะทำให้ร้านค้านั้นขาดรายได้มากเลยทีเดียว

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย.  huaydee